ตอนนี้พวกเราอยู่ในยุคที่ทุกอย่าง เร่งรีบ ไปหมด คนขี้เกียจมากขึ้น สินค้าและบริการมากมายก็ถูกออกแบบให้สะดวกรวดเร็ว และง่ายในการใช้งานมากขึ้น ครีมกันแดดเองก็เหมือนกัน ซึ่งจะมาในรูปแบบนของสเปรย์กันแดดกระป๋องที่นิยมกันมากๆ
ซึ่งจริงๆแล้วมีบทความหลายบทความ ที่ตั้งพูดถึงคุณสมบัติในการใช้งานจริงของสารกันแดดแบบสเปรย์ว่ามันกันแดดได้ดีจริงๆไหม และในต่างประเทศถึงขั้นมีการถกเถียงกันว่าควรจะยกเลิกการขายครีมกันแดดแบบนี้ไปเลยหรือเปล่า บางที่ก็เปรียบเทียบ ครีมกันแดดแบบกระป๋องสเปรย์เป็นเหมือน อาหาร fast food ที่สะดวกและ รวดเร็ว แต่แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรกับผู้ใช้และสร้างผลเสียตามมาได้อีกด้วย
“การใช้สเปรย์กันแดด โดยการพ่นผ่านๆตัว แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย นอกจากประโยชน์ทางใจ และความรู้สึก”
ปัญหาของสเปรย์กันแดดกระป๋อง
อย่างที่พวกเรารู้กัน วิธีใช้สเปรย์กันแดดกระป๋อง คือให้ผู้ใช้ ทำการฉีดสเปรย์ตามจุดต่างๆตามร่างกายให้ทั่ว ส่วนใหญ่คนจะชอบเพราะใช้ง่ายมากๆ และไม่เลอะมือ เพียงแค่ฉีดตัวผ่านๆให้ทั่วก็พร้อมจะออกไปสู้แสงแดดแล้ว แต่!! จริงๆ แล้ว การใช้สเปรย์กันแดดโดยการพ่นผ่านๆตัวแบบนั้น แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย นอกจากประโยชน์ทางใจ และความรู้สึก
นักวิจัยได้ ทดลองเปรียบเทียบใช้งานครีมกันแดดแบบสเปรย์ ก็พบว่า ครีมกันแดดแบบสเปรย์ จะได้ผล ตามที่ได้บอกไว้หน้าบรรจุภัณฑ์หรือไม่ได้ผล ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เราพ่นสเปรย์ย้ำเข้าไปในแต่ละส่วนของร่างกาย ซึ่งการทดลองบอกว่า โดยปกติหากจะให้ได้ผลควรจะต้องพ่นสเปรย์ค้างไว้ที่เดิม โดยใช้เวลาในการพ่นไม่ต่ำกว่า 6 วินาที โดยมีระยะห่างประมาณ 6-8 นิ้ว เพื่อให้สารกันแดดนั้นหนาเพียงพอ และได้รับ SPF อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของที่บอกไว้ เกาะบนผิวของเรา และค่อยๆเลื่อนตามจุดต่างๆ แขนขาไปเรื่อยๆจนครบทุกส่วน
ยกตัวอย่าง จากการทดลอง ของ futurederm.com พบว่าหากเราพ่นครีมกันแดดแบบสเปรย์ที่ระบุว่ามี SPF 50 ที่จุดๆเดียว เป็นระยะเวลา 2-3 วินาที ผิวของเราจะได้รับการปกป้องจากแสงแดดแค่ประมาณ 1 ใน 4 ของ SPF ที่ระบุไว้ข้างขวด คือประมาณ SPF 10-12.5 เท่านั้นเอง และนี่เป็นเพียงการทดลองในพื้นที่ปิดเท่านั้น หากเป็นพื้นที่เปิดที่มีลมพัด อาจจะได้ผลที่น้อยกว่านี้ไปกันใหญ่ เพราะลมจะพัดละอองสารกันแดดให้ลอยไปในอากาศได้ นี่เป็นจุดที่เราต้องคำนึงถึงอย่างยิ่ง ยิ่งถ้าเราไปเล่นกีฬาทางน้ำด้วยแล้ว เราคงไหม้เกรียมกันสนุกเลยทีเดียว
อย่าเผลอหายใจเข้าไป!
นอกจากนี้การพ่นสารกันแดดแต่ละครั้ง จะมีข้อความระบุไว้ข้างกระป๋องไว้อยู่แล้วว่าไม่ควรสูดดม เพราะฉะนั้นเวลาเราใช้งาน เราต้องกลั้นหายใจ! สารเหล่านี้ที่อยู่ในครีมกันแดดเป็นสารเคมีอันตราย ถ้าสูดดมเข้าไปจะสร้างผลเสียต่อปอดและร่างกายของเราได้ น่ากลัวมาก เพื่อนๆ ลองนึกภาพกันดูว่าเราต้องกั้นหายใจนานแค่ไหนกว่าจะพ่นสเปรย์จนครบทั้งตัว และเราคงไม่อยากจะพ่นสเปรย์นี้ในที่ๆคนเยอะๆด้วยใช่ไหม หรือเราจะขอให้คนอื่นกลั้นหายใจไปกับเราด้วยดีนะ
“เวลาใช้กลั้นหายใจด้วย ไม่งั้นปอดเราจะพังแน่ๆ”
ความคุ้มค่า
ในส่วนของความคุ้มค่า หากเราทำการเปรียบเทียบราคาของครีมกันแดดแบบ หน่วยต่อหน่วย กรัมต่อกรัม หรือ มิลลิลิตรต่อมิลลิลิตร จะพบว่าครีมกันแดดแบบกระป๋องจะมีราคาที่สูงกว่า และหากจะใช้งานให้ได้ผลดังข้างต้น คงต้องใช้กันหมดกระป๋องเร็วแน่ๆ
ทบทวนอีกครั้งก่อนใช้สเปรย์
ทุกๆอย่างในปัจจุบันเริ่มสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่เราก็ควรที่จะระวังให้มากด้วยเช่นกัน เพราะบางครั้งความสบายเป็นเพียงแค่ความสบายที่ไม่ได้ตอบโจทย์การใช้งานที่เราต้องการจริงๆ เหมือนกับ สารกันแดดแบบสเปรย์ หากเราใช้มันอย่างถูกวิธี มันก็จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีชนิดหนึ่ง แต่ด้วยการตลาดที่เจ้าของแบรนด์พยายามสื่อสารออกมา ได้ทำการสื่อสารกับผู้บริโภคโดยเน้นด้านความสะดวกสบายมากเกินไปจนลืมเน้นเรื่องวิธีการใช้ที่ถูกต้อง ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงวิธีการใช้งานที่ผิดได้ เพราะฉะนั้น นี่เป็นสาเหตุหนึ่งว่าทำไม พวกเราทีม passun reef-safe sunscreen จึงเลิกใช้สารกันแดดประเภทนี้มานานแล้วและใช้ครีมกันแดดแบบครีมทาเป็นหลัก เพราะเราสามารถควบคุมได้ทั้งปริมาณของครีมแต่ละส่วน เราสามารถมั่นใจว่าครีมติดทนนาน ด้วยเนื้อครีมที่หนากว่าและไม่เบาบางเหมือนสเปรย์ และสุดท้ายคือ พวกเราไม่ต้องกลั้นหายใจเวลาใช้ผลิตภัณฑ์อีกด้วย เก็บแรงเอาไว้เล่นน้ำดีกว่า
Comment